advertisement
349

ของแปลกหายาก หลายคนไม่เคยได้ฟังกันง่ายๆ

 งูหางกระดิ่ง อสรพิษร้ายแห่งวงศ์งูแมวเซา ลักษณะพิเศษเฉพาะตัวคือปลายหางที่แตกต่างไปกว่างูชนิดอื่นๆ

advertisement

       งูหางกระดิ่ง อสรพิษร้ายแห่งวงศ์งูแมวเซา ลักษณะพิเศษเฉพาะตัวคือปลายหางที่แตกต่างไปกว่างูชนิดอื่นๆ  ปล้องเกล็ดเป็นข้อๆ ที่หางของมันเป็นอวัยวะที่ทำให้เกิดเสียงจากการสั่นสะเทือน วันนี้เราจะพาไปดูและฟังเสียงหางของมันแม้ว่ามันจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว แต่เสียงที่หางของมันก็ยังมีเสียงดังเหมือนกับตอนที่ยังมีชีวิตอยู่

advertisement

       งูหางกระดิ่ง มีลักษณะเด่น คือ เกล็ดที่ปลายหางที่เป็นสารประกอบเคอราติน ที่เป็นอวัยวะที่สามารถทำให้เกิดเสียงได้ โดยเสียงนั้นเกิดจากการสั่นสะเทือนถี่ ๆ ของปล้องเกล็ดเป็นข้อ ๆ ที่หาง ซึ่งปล้องเกล็ดนี้พัฒนามาจากเกล็ดหางส่วนปลายนั่นเอง

       ทุกครั้งที่มีการลอกคราบปล้องเกล็ดนี้ก็จะเพิ่มจำนวนขึ้นด้วย 1 ปล้องต่อการลอกคราบ 1 ครั้ง การลอกคราบนั้นอาจเกิดขึ้นหลายครั้งใน 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นกับอาหารที่ได้รับและอัตราการเติบโต สำหรับลูกงูที่เกิดใหม่นั้นจะมีปล้องเกล็ดที่หาง 1 ปล้อง ซึ่งยังไม่สามารถสั่นให้เกิดเสียงได้ แต่เมื่อผ่านการลอกคราบครั้งแรกไปแล้วก็สามารถสั่นให้เกิดเสียงได้ การสั่นให้เกิดเสียงนั้นก็เพื่อเป็นการข่มขู่เมื่อพบศัตรูเข้ามาใกล้นั่นเอ

advertisement

       งูหางกระดิ่ง ปัจจุบันพบกว่า 30 ชนิด ทุกชนิดพบได้ในทวีปอเมริกาเหนือจนถึงอเมริกากลาง เช่น เม็กซิโก โดยมากจะอาศัยและหากินในที่ ๆ แห้งแล้ง เช่น ทะเลทราย และหากินบนพื้นดินมากกว่าจะขึ้นต้นไม้ ออกหากินในเวลากลางคืน โดยใช้การตรวจจับคลื่นความร้อนจากรังสีอินฟาเรดจากตัวเหยื่อด้วยอวัยวะรับคลื่นความร้อนที่เป็นแอ่งระหว่างช่องเปิดจมูกกับตา 

       เป็นงูที่มีพิษร้ายแรงทำให้มนุษย์ที่ถูกกัดเสียชีวิตได้ สำหรับภูมิภาคอื่นที่ไม่มีงูหางกระดิ่ง แต่ก็มีงูบางชนิดในวงศ์เดียวกันนี้ ที่เกล็ดตามลำตัวสามารถเสียดสีทำให้เกิดเสียงดังได้เพื่อขู่ศัตรู เช่น งูพิษเกล็ดเลื่อย (Echis carinatus) ในประเทศอินเดีย เป็นต้น

advertisement

โพสต์ดังกล่าว

 

ความคิดเห็นชาวเน็ต

advertisement

       "ด้านในเปล้องๆ ไม่ใช่กระดูก แต่เป็นเกล็ดส่วนหางที่ตัวงูมันพัฒนาตามสายพันธุ์ของมันเอง เท่าที่เคยเรียนมาอะนะ"

      เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หลังจากที่ลองฝ่ากลางหางออกมาก็ไม่พบว่ามีก้อนอะไรกลมๆอยู่ข้างใน งูชนิดนี้ พบได้ในทวีปอเมริกาเหนือจนถึงอเมริกากลาง เช่น เม็กซิโก โดยมากจะอาศัยและหากินในที่ ๆ แห้งแล้ง เช่น ทะเลทราย และหากินบนพื้นดินมากกว่าจะขึ้นต้นไม้ ออกหากินในเวลากลางคืนในไทยไม่มีงูชนิดนี้นะครับ

เรียบเรียงโดย : kaijeaw.com

advertisement
advertisement