สุขภาพ 293 แมงลัก..ผักพื้นบ้าน เปี่ยมคุณค่า!! advertisement พืชล้มลุกอยู่ในสกุลเดียวกับกะเพราและโหระพา ต่างกันที่กลิ่น ใบจะมีสีเขียวจางกว่าใบกะเพรา ผักแมงลัก เป็นผักพื้นบ้านอย่างหนึ่ง เราสามารถนำมากินได้ เป็นผักสด และใส่ในอาหาร ส่วนเมล็ดก็มีประโยชน์ที่สาวๆ ชื่นชอบ คือช่วยลดความอ้วนได้ เมื่อกินเข้าไปแล้วจะพองตัวทำให้อิ่มไว ลดปริมาณการกินอาหารอื่นๆ ได้ advertisement วันนี้ Kaijeaw.com ก็มีประโยชน์ของแมงลักมาฝากกันค่ะ1. รักษาโรคหวัด แมงลักเป็นยารสร้อนเล็กน้อย ใบสดของแมงลักมีสรรพคุณเป็นยาแก้หวัด ลดอาการหลอดลมอักเสบ ขับเหงื่อได้2. ขับลมในลำไส้ อาหารไม่ย่อย อาการอึดอัด แน่นไม่สบายท้อง ให้นำต้นและใบแมงลักต้มน้ำดื่ม3. เรียกน้ำนม เหมาะสำหรับคุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุตรใหม่ๆ การทานแมงลักจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนม เพิ่มปริมาณสารอาหารในน้ำนมของมารดาส่งต่อให้ลูกน้อย อีกทั้งยังช่วยแก้อาการน้ำนมคัดได้ด้วย4. ช่วยขับคอเลสเตอรอลไม่ดีออกจากร่างกาย ด้วยเส้นใยของแมงลักสามารถดูดซับไขมันไว้ได้ เมื่อร่างกายไม่สามารถย่อยกากใยพวกนี้ได้ ไขมันไม่ดีก็จะถูกขับออกมาพร้อมกับเส้นใยของแมงลัก แต่ไม่มีผลใดๆ ต่อไขมันดี5. เสริมสร้างกระดูก ใบแมงลักมีแคลเซียมสูงช่วยบำรุงกระดูก6. ควบคุมน้ำหนัก การทานเม็ดแมงลักก่อนทานอาหาร ช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะเม็ดแมงลักไม่ก่อให้เกิดพลังงาน แถมยังสามารถพองตัวได้ถึง 4-5 เท่า หากนำไปแช่น้ำสักพักจนพองตัว แล้วนำมาทานก่อนทานอาหารก็จะช่วยให้เรารู้สึกอิ่มท้อง หลังจากนี้ก็จะทานอาหารได้น้อยลง เป็นการควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทานได้เป็นอย่างดี เลยควบคุมน้ำหนักได้ด้วย7. ช่วยในการขับถ่าย เปลือกด้านนอกของเม็ดแมงลักสามารถพองตัวได้ถึง 45 เท่า โดยไม่ถูกย่อย เม็ดแมงลักก็เลยช่วยเพิ่มกากใยและช่วยหล่อลื่น ทำให้อุจจาระไม่เกาะลำไส้ ขับถ่ายได้สะดวก8. ดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน เม็ดแมงลักพองตัวมาก ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ช้าลง จึงเหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องการให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลลดลงด้วย9. บำรุงสายตา ใบแมงลักมีวิตามินเอสูง การกินใบแมงลักเป็นประจำช่วยบำรุงสายตา10. บำรุงเลือด แก้โลหิตจาง ใบแมงลักอุดมด้วยธาตุเหล็กช่วยบำรุงโลหิตข้อควรรู้- ก่อนทานเม็ดแมงลักต้องแช่น้ำให้พองตัวเต็มที่ก่อน เพราะถ้ารับประทานเม็ดแมงลักที่ยังพองตัวไม่เต็มที่ เมื่อเม็ดแมงลักลงไปอยู่ในท้องก็จะดูดน้ำภายในช่องทางเดินอาหาร ทำให้เม็ดแมงลักจับตัวเป็นก้อนแข็ง และอุดตันลำไส้ จนทำให้เกิดการท้องผูก และท้องอืดมากขึ้น- อย่าทานยาพร้อมเม็ดแมงลัก เพราะจะมีผลทำให้ร่างกายดูดซึมยาเหล่านั้นได้น้อยลง ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยากับเม็ดแมงลักพร้อมๆ กัน โดยให้เลือกรับประทานยาก่อนสัก 15 นาที ค่อยตามด้วยการรับประทานเม็ดแมงลัก- การรับประทานเม็ดแมงลักแทนมื้ออาหารหลัก ควรรับประทานเป็นบางมื้อ เพราะอาจจะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นอื่นๆ ได้- ควรเลือกซื้อเม็ดแมงลักที่มีความสะอาดได้มาตรฐานน่าเชื่อถือ อยู่ในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดมิดชิด เก็บไว้ในที่เหมาะสม เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว อาจมีเชื้อราหรือสารพิษอย่างอะฟลาทอกซินปนเปื้อนมาด้วยก็ได้ (สารอะฟลาทอกซิน เมื่อบริโภคจำนวนมากอาจทำให้อาการท้องเดิน อาเจียน และสะสมเป็นสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งตับ)จะเห็นได้ว่าการทานผักแมงลัก มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ก็ควรทานให้ถูกวิธีด้วยนะคะ โดยเฉพาะเม็ดแมงลัก ที่มีข้อควรระวังอยู่บ้าง ไม่เช่นนั้นนอกจากจะไม่เป็นผลดีแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพได้อีกด้วยเรียบเรียงเนื้อหาโดย : Kaijeaw.com advertisement